วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

การเดินทางย้อนรอยสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น (วันที่ 8)

หมู่บ้านริมทาง
วันที่แปด ในช่วงเช้าแวะหมู่บ้านริมทาง จังหวัดสุโขทัย มีลักษณะของรูปแบบบ้านไทยพื้นถิ่น ที่มีการใช้วัสดุภายในท้องถิ่นมาใช้ รวมถึงการเลือกเปิดใต้ถุนเพดานสูงเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานแบบรวมกลุ่ม ทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานมากขึ้น


ทาง เดินไปสู่บ้านพักในส่วนด้านหลังจะเป็นป่าไผ่ ซึ่งมีการปลูกสมุนไพรผสมผสานไปกันด้วย (ต้นสมุนไพรมีขนาดใหญ่มาก) ซึ่งมีความร่มรื่น และน่าประทับใจมาก ส่วนด้านหลังสุดของหมู่บ้าน ติดกับริมน้ำ มีการปลูกเป็นแนวป่าไผ่ และในบางบริเวณมีการปลูกแพเล็กๆยื่นขึ้นออกไปเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานริม ฝั่งน้ำด้วย



วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเฉลียง
เดินทางเข้ามาสู่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเฉลียง โดยเดินทางผ่านสะพานแขวนขนาดใหญ่ข้ามแม่น้ำมา เมื่อมาถึงภายในขอบเขตวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเฉลียง บริเวณโดยรอบเป็นพื้นดินแดงและพื้นหญ้า มีการกั้นเขตพื้นที่ภายในส่วนของพระปรางค์ โดยกำแพงหินศิลาแดงโดยรอบ ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าลักษณะเป็นปรางค์รูปแบบจากขอม เข้ามาส่วนภายในจะมีลักษณะเป็นคอร์ดหญ้าล้อมรอบ มีส่วนของเจดีย์ด้านข้างประกอบกัน  และส่วนกลางเป็นพระปรางค์แบบไทย(ดัดแปลงมาจากขอมในภายหลัง) 


สิ่งที่น่าประทับใจ คือ พระพุทธรูปปางลีลา ซึ่งมีท่วงท่าซึ่งมีความสวนงามมากอีกองค์หนึ่ง


โรงแรมสุโขทัย เฮอร์ริเทจ รีสอร์ท
เดินทางอย่างรวดร็วมาสู่โรงแรมสุโขทัย เฮอร์ริเทจ รีสอร์ท ที่นัดเวลาไว้ รูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่นำมาเป็นส่วนประกอบเป็นสถาปัตยกรรมยุคสุโขทัย การวางผังบริเวณ มาปรับให้เกิดความนำสมัยมากขึ้น ทั้งในส่วนทางเข้าที่นำรูปปั้นช้างลอยตัว มาประดับ คล้ายคลึงกับวัดช้างล้อมที่มีความเชื่อในเรื่องของสัตว์มงคล 

การเปิดพื้นที่ส่วนกลางเป็นส่วนโถงรองรับ สร้างบ่อน้ำไล่อากาศร้อน วางอาคารห้องพักโดยรอบ เลือกรูปแบบหลังคาหลังจั่ว ซ้อนกันหลายชั้น และรูปแบบช่องเปิดแนวยาว ที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของสุโขทัย รวมถึงยังมีการเล่นวัสดุทั้งอิฐ ปูนขาวและการใช้แสงธรรมชาติ ทำให้เกิดแสงสลัว ไม่พึ่งพาแสงประดิษฐ์มากเหมือนเช่นในปัจจุบัน




สนามบินสุโขทัย
เดินทางต่อสู่สนามบินประจำจังหวัดสุโขทัย มีการนำรูปแบบทางสถาปัตยกรรมไทยยุคสุโขทัยมาปรับใช้ ทั้งรูปแบบหลังคา และการจัดผังบริเวณ เนื่องจากเป็นอาคารที่รองรับผู้โดยสารจำนวนไม่มาก ทำให้สามารถจัดองค์ประกอบได้อย่างสวยงาม และไม่วุ่นวายได้ ภาพแรกที่ก้าวเข้าไปในสนามบิน รู้สึกถึงความเป็นไทยมาก แต่ร้อนมากเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเข้าไปภายใต้อาคาร บรรยากาศภายในมีความร่มรื่น และไม่ร้อนอย่างที่คิดไว้ ทั้งในส่วนรับรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและออก มีการใช้เรื่องของการระบายอากาศทั้งทางเปิดผนังและหลังคาสูงได้ดี มีการประดับตกแต่งที่ดึงนำเอาความเป็นสุโขทัยเข้ามาประกอบใช้ได้ดี



อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย

วัดนางพญา
เดินทางไม่นานก็มาถึงสถานที่สำคัญ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ส่วนของอุทยานประวัติศาสตร์ ทางเดินเข้าสู่ภายในตัวอุทยานประวัติศาสตร์ มีลักษณะเป็นสะพานทางเดินทางปกคลุมไปด้วยมอสและหนองน้ำที่เป็นสีเขียว ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีลักษณะชุ่มชื้น  สามารถนำไปปรับใช้ในเรื่องของการจัดผังได้ดี มาถึงส่วนวัดแรก วัดนางพญา 


มีความสวยงามในลักษณะของการเป็นการจัดวางผังที่เป็นสัดส่วนต่างๆตามลักษณะของสุโขทัย มีการเล่นลวดลายของผนังและเสาศิลาแลงที่ละเอียด ยังคงมีร่องรอยที่เหลือให้เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน รวมถึงการเล่นของระดับที่มีการขึ้นลงระดับชั้นจากพื้น แนวเสา การก่ออิฐต่างๆ ทำให้เกิดเส้นนอนที่ชัดเจน เกิดมิติทางมุมมองที่สวยงาม




วัดเจดีย์เจ็ดแถว
ต่อมาที่ วัดเจดีย์เจ็ดแถว ลักษณะแปลนของการวางผังอาคารเป็นไปตามลักษณะของชื่อวัด คือ แบ่งแจดีย์ตามส่วนต่างๆ เจ็ด แถว (แต่ยังนับไม่ค่อยเข้าใจมากเท่าไร) การวางเจดีย์ และพระพุทธรูปจะประกอบอยู่ตำแหน่งรอบๆ ส่วนที่สวยงามของวัดเจดีย์เจ็ดแถว คือ แนวการวางอาคาร ที่ประกอบไปด้วยส่วนกลางที่เป็นเจดีย์ประธานรูปดอกบัวตูม

และ พระพุทธรูปที่ประดับตกแต่งอยู่ตามส่วนของเจดีย์บริวารที่ถูกจัดวางรายล้อม เจดีย์ประธาน ซึ่งมีลักษณะของพระพุทธรูปปางต่างๆ มีท่วงท่าที่สวยงาม เช่น ส่วนด้านท้ายวัดจะเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรกที่ลักษณะเป็นนูนสูงกึ่งสามมิติ


วัดช้างล้อม
วัดถัดจากวัดเจดีย์เจ็ดแถว คือ วัดช้างล้อม รูปแบบสถาปัตยกรรมในยุคสุโขทัยเป็นรูปทรงเจดีย์ครอบฐานกลม ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่รูปปั้นลอยตัวรูปทรงช้างที่ประดับอยู่รายล้อมเจดีย์ทั้งหมด 39 เชืออก ซึ่งเชื่อว่าเป็นการนำสัตว์มงคลมาจะช่วยในการปกป้องและค้ำจุนเจดีย์และพระพุทธศาสนาไว้
และแวะจุดสุดท้ายที่หมู่บ้าน (คุ้ม 10 ราชพฤกษ์)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น