วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

การเดินทางย้อนรอยสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น (วันที่ 4)

พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ในช่วงเช้าของวันที่สี่ ตื่นมาขึ้นรถไปที่ตลาดทานอาหารเช้า และเดินมาที่พิพิธภัณฑ์มหาลัยเชียงใหม่ มีความร่มรื่นมาก มาศึกษาเกี่ยวกับบ้านเรือนไทยทางภาคเหนือ การจัดผังบริเวณ ที่ได้รวมไว้ในที่เดียวกันแล้ว ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีการทำการจำลองรูปแบบอาคารหลายลักษณะ เช่น เรือนกาแล เรือนพื้นบ้านล้านนา หรือยุ้งฉาง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้มาก



สรุป รวมเรือนส่วนใหญ่จะเป็นเรือนไม้ที่เปิดใต้ถุนไม่สูงมาก มีลานบนตัวเรือนด้านหน้าใช้เพื่อต้อนรับแขกเรื่อ และพักผ่อน มีการแบ่งพื้นที่ใช้งานให้เป็นสัดส่วน เน้นเรื่องแสงธรรมชาติและวัสดุพื้นถิ่นทางภาคเหนือ เช่น ช่องเปิดแบบฝาไหล ที่เลื่อนเปิด ปิดแสงได้ ถ้าต้องการศึกษาเรือนไทยภาคเหนือก็เหมาะมากแก่การมาเยี่ยมชม


วัดพันเตา
เดินทางต่อมาที่วัดพันเตา เนื่องด้วยรถอีกคันเสีย รถบัสจึงเดินทางสลับไปมา จึงได้เดินเล่นที่วัดพันเตานานกว่าปกติ ได้ไหว้พระทั่วๆ ซึ่งวัดพันเตานี้ทางเข้าตั้งอยู่ติดริมถนนค่อนข้างกระชั้น  โทนสีของอุโบสถใช้สีน้ำตาลแดง เข้มๆดูเก่าแก่ น่าเคารพ มีการรักษาลานทรายไว้ในบางส่วน เป็นวัดขนาดย่อมๆ แต่ให้ความรู้สึกกว้างขวาง สามารถเดินไปมาได้ทั่วๆไม่แยกขากจากกัน ทำให้เกิดความต่อเนื่องของพื้นที่











มาทางด้านข้าง มีระฆัง พระพุทธรูป สามารถเดินชมพระพุทธรูป (น่าจะเป็นช่วงเวลาที่จำลองการเผยแพร่พระศาสนา) ซึ่งสวยงามและสงบนิ่ง 


วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
ทางด้านซ้ายมือ เดินจากวัดพันเตามาไม่ไกลนัก จะเจอทางเข้าวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ซึ่งมีเจดีย์ขนาดใหญ่ เป็นโบราณสถานที่มีการอนุรักษ์รักษาไว้ รอบข้างฐานมีการประดับด้วยรูปปั้นลอยตัวรูปทรงช้าง ดูใหญ่โต น่าเกรงขามมาก นอกจากนี้มีการก่อสร้างพื้นที่โดยรอบเป็นศาลาที่ให้ผู้เยี่ยมชม สามารถกราบไหว้ได้เป็นสัดส่วน 


โรงแรมราชมรรคา
เดินต่อมาอย่างรวดเร็วที่โรงแรมราชมรรคาที่มีความสวยงามในเรื่องของผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนและไทยล้านนาไว้  โดยนำรูปแบบ สัดส่วนอาคารของหอไตรวัดพระธาตุลำปางหลวงมาประกอบ ทั้งเรื่องของวัสดุอาคาร ที่ใช้ปูนขาวหมัก ซึ่งได้ความละเลียดละออ ความมั่นคงไปด้วยพร้อมกัน และหลังคาที่หลังคาซ้อนชั้นกัน ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกสะดุดตา กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งกับสภาพแวดล้อม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น